หูตึง คือภาวะที่เราไม่สามารถรับรู้เสียงหรือไม่สามารถได้ยินซึ่งอาจจะเกิดกับหูทั้งสองข้างหรือหูข้างเดียวซึ่งจะเกิดขึ้นอย่างช้าๆ หรืออาจเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันก็ได้ อาการหูตึงนั้นสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกันและในสังคมไทยส่วนใหญ่มักจะเกิดในกลุ่มผู้สูงอายุ แล้วสาเหตุของหูตึงนั้นเกิดจากอะไรได้บ้างมาศึกษาจากบทความนี้ไปพร้อมๆ กัน
- หูชั้นในเสื่อม
อาการหูชั้นในเสื่อมนั้นเป็นอาการที่จะเกิดขึ้นตามอายุเมื่ออายุเพิ่มขึ้นโอกาสที่หูชั้นในจะเสื่อมนั้นก็มากขึ้นตามด้วย ซึ่งจะเป็นการเสื่อมของประสาทหูชั้นใน ซึ่งอาการเสื่อมนั้นจะเริ่มแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่เกิดอาการเสื่อมทันทีแบบเฉียบพลัน อาการมักจะเริ่มจากการค่อยๆ ได้ยินเสียงรอบตัวแบบเบาๆ พร้อมกันทั้ง 2 ข้าง และจะไม่มีอาการอื่นร่วมด้วย และกว่าจะสามารถสังเกตเห็นความผิดปกติได้ก็เมื่อเวลาได้ผ่านไปนานมากแล้วจนอาการเริ่มรุนแรงจนในบางรายอาจจะได้ยินแต่ไม่สามารถจับใจความได้
- สภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย
การอาศัยอยู่ในบริเวณที่มีเสียงดังรบกวนอยู่ตลอดเวลา ก็เป็นสาเหตุที่สามารถทำให้เกิดอาการหูตึงได้เช่นกัน หรือการทำงานอยู่ในพื้นที่ก่อสร้าง โรงงานอุตสาหกรรมที่มีเสียงเครื่องจักรดังๆ เพราะการได้รับเสียงที่ดังเกินไปเป็นเวลาต่อเนื่องและยาวนานนั้นจะเป็นปัจจัยที่ทำให้เซลล์ประสาทหูชั้นในได้รับความเสียหาย นอกจากนี้หูตึงยังสามารถเกิดได้จากการได้ยินเสียงที่ดังมากอย่างกะทันหัน ไม่ว่าจะเป็นเสียงพลุ เสียงปืนหรือเสียงระเบิด
- หูตึงมาจากการใช้ยาเป็นเวลานาน
การใช้ยาไม่ใช้ว่าจะส่งผลดีอย่างเดียวเสมอไปซึ่งจะมีผลข้างเคียงที่นับได้ว่าเป็นผลเสียตามมาด้วย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุนั้นการใช้ยาปฏิชีวนะหรือยาเคมีบำบัดบางชนิด เช่น เจนตามัยซิน ก็อาจส่งผลให้เกิดอาการหูแว่วได้เป็นครั้งคราว ยิ่งไปกว่านั้นการรับประทานยาแอสไพริน ยาต้านมาลาเรีย ยาขับปัสสาวะ รวมไปถึงยาแก้ปวดชนิดอื่นๆ ในปริมาณที่มากเกินไปก็สามารถเป็นปัจจัยที่จะส่งผลเสียต่อการสูญเสียการได้ยินชั่วคราวได้ด้วยเช่นกัน
- เกิดจากโรค
โรคหรือภาวะเจ็บป่วยบางอย่างในร่างกายสามารถส่งผลกระทบต่อการได้ยินของหูได้ โรคบางโรคสามารถทำให้เกิดอาการหูตึงข้างใดข้างหนึ่งแบบฉับพลัน เช่น น้ำในหูไม่เท่ากัน ติดเชื้อที่หู แก้วหูทะลุ ขี้หูอุดตัน มีถุงน้ำในหู โรคหินปูนเกาะกระดูหู และโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ก็สามารถส่งผลให้เกิดอาการหูตึงได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้น การตรวจร่างกายอย่างเป็นประจำก็เป็นวิธีที่จะสามารถทำให้เราได้รักษาอาการเหล่านี้ได้ทันท่วงทีทั้งยังสามารถป้องกันอาการหูตึงที่เกิดตามมาในภายหลังได้ด้วย
- ได้รับบาดเจ็บบริเวณศรีษะ
หูตึงสามารถเกิดจากอาการบาดเจ็บที่บริเวณศรีษะได้ด้วยเช่นกัน ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุที่บริเวณศรีษะนั้นสามารถส่งผลกระทบไปถึงหูได้ด้วยซึ่งจะมีผลให้เราสามารถสูญเสียการได้ยินได้ ดังนั้น ถ้าไม่อยากหูตึงตั้งแต่อายุยังน้อยก็ควรดูแลตัวเองและไม่ประมาทในการใช้ชีวิตเพื่อป้องกันความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นในภายหลัง